Page 8 - รายงานการติดตามการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ : ผลกระทบต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และการละเมิดสิทธิมนุษยชน
P. 8
รายงานการติดตามการลงทุนโดยตรงของไทยในต่างประเทศ
ผลกระทบต่อชุมชน สิ่งแวดล้อม และการละเมิดสิทธิมนุษยชน
กสม. กับกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชนข้ามพรมแดนของไทย
1
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ(กสม.) ได้ติดตามและตรวจสอบ
กรณีร้องเรียนการละเมิดสิทธิชุมชน และการจัดการฐานทรัพยากรในกรณีของ
บุคคล/กลุ่มบุคคลสัญชาติไทยที่เป็นองค์กรภาครัฐ และ/หรือมิใช่ภาครัฐ (state and
non-state actors) ที่จัดท�าโครงการพัฒนาหรือธุรกิจขนาดใหญ่ในประเทศเพื่อน
บ้าน ตามกรณีร้องเรียนต่างๆ ตั้งแต่ปี 2553 เป็นต้นมา ทั้งในราชอาณาจักรกัมพูชา
สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา โดยมี
กระบวนการด�าเนินงาน ครอบคลุม (1) การแสวงหาข้อเท็จจริงจากผู้ถูกกล่าวหา
กระท�าการละเมิด และ/หรือการตรวจสอบข้อเท็จจริงในพื้นที่ในกรณีที่เป็นพื้นที่
2
ของประเทศไทย หรือเป็นเส้นพรมแดนระหว่างประเทศ (2) การประสานงานกับ
องค์กรพัฒนาระหว่างประเทศ และ/หรือภายในท้องถิ่นของประเทศนั้นๆ ในการ
ออกแบบ และจัดท�าการศึกษาหรือวิจัยเพื่อรวบรวมข้อเท็จจริงในกรณีที่เป็นพื้นที่
3
นอกประเทศไทย (3) การจัด น�าเสนอ และ/หรือเข้าร่วมการประชุมเชิงวิชาการ
4
ระหว่างประเทศเพื่อน�าเสนอและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับพื้นที่ต่างๆ (4) การจัดท�า
รายงานการตรวจสอบ และพิจารณาการละเมิดสิทธิมนุษยชน พร้อมกับน�าเสนอต่อ
1 เริ่มต้นโดย กสม. ชุดที่สอง (คณะอนุกรรมการด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร โดยมีนายนิรันดร์ พิทักษ์
วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธาน) และ กสม. ชุดที่สาม (คณะอนุกรรมการ และคณะท�างาน
ด้านสิทธิชุมชนและฐานทรัพยากร โดยมีนางเตือนใจ ดีเทศน์ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เป็นประธาน)
2 โดยพิจารณาถึงเขตอ�านาจรัฐ หรือกฎหมายของประเทศไทย (Jurisdiction) เป็นส�าคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง
กรณีโครงการพัฒนาขนาดใหญ่ในแม่น�้า หรือแหล่งทรัพยากรร่วมของประเทศต่างๆ อาทิ แม่น�้าสาละวินใน
ชายแดนระหว่างราชอาณาจักรไทย และสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา และแม่น�้าโขง ในชายแดนระหว่างราช
อาณาจักรไทย และสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
3 โดยพิจารณาถึงหลักการส�าคัญของธุรกิจและสิทธิมนุษยชน ที่ค�านึงถึงความรับผิดชอบของรัฐต่อการกระท�า
ของธุรกิจที่ถือสัญชาติของรัฐนั้นๆ อาทิ กรณีข้อพิพาทอุตสาหกรรมผลิตน�้าตาลสัญชาติไทยกับการจัดการที่ดิน
ในจังหวัดเกาะกง และอุดรมีชัย ราชอาณาจักรกัมพูชา และกรณีการจัดท�าเขตเศรษฐกิจพิเศษทวายโดยการ
ด�าเนินการของธุรกิจร่วมทุนสัญชาติไทย และอื่นๆ ในสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมา
4 อาทิ การเข้าร่วมการประชุมทางวิชาการด้านธุรกิจและสิทธิมนุษยชนในภูมิภาคเอเชีย และการน�าเสนอต่อที่
ประชุมระดับภูมิภาคว่าด้วยสิทธิมนุษยชน และเกษตรพาณิชย์ (SEA Conference on Human Rights and Ag-
ribusiness) ตั้งแต่ปี 2554 เป็นต้นมา ตลอดจนการน�าเสนอต่อที่ประชุมระดับโลกว่าด้วยธุรกิจและสิทธิมนุษย
ชน (Forum of Business and Human Rights) ในปี 2556 และการเข้าร่วมการดังกล่าวจนถึงปัจจุบัน
4