Page 9 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
P. 9
รายงานการศึกษาวิจัย
โครงการการศึกษาวิจัย เรื่อง พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนของประชาคมอาเซียน
ให้มีการจัดตั้งกลไกด้านสิทธิมนุษยชนขึ้นเป็นครั้งแรก โดยให้องค์กรด้านสิทธิมนุษยชนของอาเซียน
มีขอบเขตอ านาจหน้าที่เป็นไปตามที่ก าหนดโดยที่ประชุมรัฐมนตรีต่างประเทศอาเซียน (มาตรา 14)
ซึ่งองค์กรดังกล่าวคือ คณะกรรมาธิการระหว่างรัฐบาลอาเซียนว่าด้วยสิทธิมนุษยชน (AICHR)
2. AICHR ถือเป็นกลไกและองค์กรหลักในด้านสิทธิมนุษยชนของอาเซียนจัดตั้งขึ้นที่ประเทศไทย
ในปี พ.ศ. 2552 และมีภารกิจหลักตามที่ก าหนดในเอกสารขอบเขตอ านาจหน้าที่รวม 14 ประการ
ซึ่งประการที่ส าคัญที่สุดในระยะเริ่มแรกคือการจัดท าปฏิญญาสิทธิมนุษยชนอาเซียน (AHRD) โดยในการ
วิจัยได้เน้นความส าคัญต่อ AICHR ซึ่งถือเป็นกลไกสิทธิมนุษยชนระดับภูมิภาคล่าสุดของโลก (นับจากการ
จัดตั้งกลไกระดับภูมิภาคในยุโรป อเมริกาและอาฟริกา) โดยได้ชี้ให้เห็นถึงความท้าทายทั้งในเชิงโครงสร้าง
และการด าเนินงานที่เน้นภารกิจในด้านการส่งเสริมสิทธิมนุษยชน (Promotion) แต่ยังขาดความชัดเจนใน
การด าเนินภารกิจการคุ้มครองสิทธิมนุษยชน (Protection) ทั้งนี้ได้รวมการวิเคราะห์เกี่ยวกับ
คณะกรรมาธิการอาเซียนว่าด้วยการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิสตรีและสิทธิเด็ก (ACWC) และคณะกรรมการ
อาเซียนว่าด้วยการอนุวัติการตามปฏิญญาการคุ้มครองและส่งเสริมสิทธิแรงงานข้ามชาติ (ACMW) ซึ่งเป็น
กลไกสิทธิมนุษยชนในกรอบอาเซียนที่มีภารกิจเฉพาะด้านด้วย
นอกจากประเด็นตราสารสิทธิมนุษยชนและกรอบกลไกสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่ในปัจจุบันในอาเซียน
แล้ว รายงานฉบับนี้ยังวิเคราะห์แนวโน้มการพัฒนาในระดับภูมิภาคของอาเซียนตลอดจนกลไกและ
การจัดท าตราสารสิทธิมนุษยชนในอนาคตพร้อมทั้งจัดท าข้อเสนอแนะต่อ กสม. ในการเสริมสร้างบทบาท
ของประเทศไทยในเวทีสิทธิมนุษยชนอาเซียนด้วย และมีข้อสรุปที่ส าคัญดังนี้
1. การจัดตั้งประชาคมอาเซียน (ASEAN Community) อย่างเต็มรูปแบบในวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.
2558 ถือเป็นก้าวส าคัญในประวัติศาสตร์ทางการเมือง เศรษฐกิจและสังคมต่อประเทศในภูมิภาคเอเชีย
ตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะสมาชิกของประชาคมอาเซียนทั้งสิบประเทศ (ซึ่งอาจเพิ่มจ านวนขึ้นในอนาคต)
ความเปลี่ยนแปลงและความท้าทายเชิงโครงสร้างของ AC คือวิสัยทัศน์อาเซียนและพิมพ์เขียวประชาคมเสา
หลักทั้งสามของอาเซียนจะเอื้อให้การส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชนซึ่งเป็นประเด็น
ที่เกี่ยวพัน (Crosscutting) กับทั้งสามเสาหลักสามารถด าเนินได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นหรือไม่
โดยประเด็นโครงสร้างดังกล่าวและการพัฒนาหรือปรับปรุงกลไกสิทธิมนุษยชนของ AC จะส่งผลโดยตรงต่อ
จ านวนและคุณภาพที่เพิ่มมากขึ้นของตราสารสิทธิมนุษยชนในอาเซียนต่อไป
2. ส าหรับบทบาทของประเทศไทยโดยเฉพาะ กสม. ต่อประเด็นสิทธิมนุษยชนในอาเซียน ผู้วิจัยได้
จัดท าข้อเสนอแบ่งออกเป็นสองระดับ คือระดับประเทศและระดับภูมิภาค โดยในระดับประเทศ
ประเทศไทยสามารถเสริมสร้างบทบาทด้านสิทธิมนุษยชนได้โดยการเข้าเป็นภาคีในตราสารสิทธิมนุษยชน
ระหว่างประเทศ พิจารณาถอนข้อสงวนต่อตราสารที่ได้เข้าเป็นภาคีแล้ว และเสริมสร้างประสิทธิภาพการ
อนุวัติการตามพันธกรณีเพื่อให้เป็นตัวอย่างแก่ประเทศสมาชิกอื่นๆ นอกจากนั้นยังสามารถด าเนินการ
ให้ความช่วยเหลือประเทศสมาชิกทั้งในด้านการแลกเปลี่ยนประสบการณ์และความช่วยเหลือทางเทคนิคใน
ประเด็นการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะการจัดตั้งกลไกสิทธิมนุษยชนระดับประเทศ
ส าหรับการด าเนินการในระดับภูมิภาค ประเทศไทยซึ่งถือเป็นหนึ่งในประเทศผู้ก่อตั้งอาเซียนสามารถ
ผลักดันให้มีการปรับปรุงกลไกสิทธิมนุษยชนของอาเซียนและการสร้างคุณภาพตราสารสิทธิมนุษยชนที่
อาเซียนจะพัฒนาขึ้นต่อไป
National Human Rights Commission of Thailand 2