Page 7 - พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560
P. 7
หน้า ๗
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๒๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๐
ทุกขั้นตอน และเพื่อประโยชน์แห่งการนี้ ให้คณะกรรมการสรรหาใช้วิธีการสัมภาษณ์หรือให้แสดงความคิดเห็น
ในเรื่องที่เกี่ยวกับหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการ หรือวิธีการอื่นใดที่เหมาะสม เพื่อประกอบ
การพิจารณาด้วย
(๒) การสรรหากรรมการให้กระทําโดยการประกาศรับสมัครหรือการเสนอชื่อบุคคลซึ่งมี
ความเหมาะสมทั่วไปเพื่อเข้ารับการสรรหาซึ่งต้องกระทําโดยเปิดเผย โดยในการเสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับ
การสรรหาจะต้องได้รับความยินยอมของบุคคลนั้นด้วยและให้มีการประกาศรายชื่อบุคคลที่จะเข้ารับ
การสรรหาให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปเพื่อรับฟังข้อมูลเกี่ยวกับความเหมาะสมของผู้เข้ารับการสรรหาดังกล่าว
เพื่อประกอบการพิจารณา ในการสรรหาด้วย
(๓) ในการสรรหา ให้คณะกรรมการสรรหาปรึกษาหารือเพื่อคัดสรรให้ได้บุคคลซึ่งมี
ความรับผิดชอบสูง มีความกล้าหาญในการปฏิบัติหน้าที่ และมีพฤติกรรม ทางจริยธรรมเป็นตัวอย่างที่ดี
ของสังคม มีทัศนคติที่เหมาะสมในการปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดผลสําเร็จ รวมตลอดทั้งคํานึงถึงการมีส่วนร่วม
ของทั้งหญิงและชาย และส่งเสริมความเป็นพหุสังคม และให้คณะกรรมการสรรหาส่งข้อมูลที่ใช้ใน
การพิจารณาคัดสรรไปยังวุฒิสภาเพื่อประกอบการพิจารณาด้วย
การกําหนดระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ต้องเพียงพอที่จะเปิดโอกาสให้บุคคลสามารถสมัครหรือ
เสนอชื่อบุคคลเพื่อเข้ารับการสรรหาได้อย่างทั่วถึง และทําให้กรรมการสรรหาสามารถพิจารณาคัดสรร
บุคคลให้ดํารงตําแหน่งได้อย่างเหมาะสมและมีประสิทธิภาพ
ในการสรรหา ให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผยและให้กรรมการสรรหาแต่ละคนบันทึกเหตุผล
ในการเลือกไว้ด้วย
ผู้ซึ่งจะได้รับการสรรหาต้องได้รับคะแนนเสียงถึงสองในสามของจํานวนทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของ
คณะกรรมการสรรหา
ถ้าไม่มีบุคคลใดได้รับคะแนนเสียงตามวรรคสี่ หรือมีแต่ยังไม่ครบจํานวนที่จะต้องสรรหา ให้มี
การลงคะแนนใหม่สําหรับผู้ได้คะแนนไม่ถึงสองในสาม ถ้ายังได้ไม่ครบตามจํานวนให้มีการลงคะแนน
อีกครั้งหนึ่ง ในกรณีที่การลงคะแนนครั้งหลังนี้ยังได้บุคคลไม่ครบ ตามจํานวนที่จะต้องสรรหา
ให้ดําเนินการสรรหาใหม่สําหรับจํานวนที่ยังขาดอยู่
มาตรา ๑๔ ผู้ได้รับการสรรหาเพื่อแต่งตั้งให้ดํารงตําแหน่งกรรมการ ต้องได้รับความเห็นชอบ
จากวุฒิสภาด้วยคะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจํานวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของวุฒิสภา
ในกรณีที่วุฒิสภาไม่ให้ความเห็นชอบผู้ได้รับการสรรหารายใด ให้ดําเนินการสรรหาบุคคลใหม่
แทนผู้นั้น แล้วเสนอต่อวุฒิสภาเพื่อให้ความเห็นชอบต่อไป โดยผู้ซึ่งไม่ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภา
ในครั้งนี้จะเข้ารับการสรรหาในครั้งใหม่นี้ไม่ได้
เมื่อมีผู้ได้รับความเห็นชอบจากวุฒิสภาแล้ว หากเป็นกรณีที่ประธานกรรมการพ้นจากตําแหน่งด้วย
ให้ผู้ได้รับความเห็นชอบประชุมร่วมกับกรรมการซึ่งยังดํารงตําแหน่งอยู่ถ้ามี เพื่อเลือกกันเองให้คนหนึ่ง
เป็นประธานกรรมการแล้วแจ้งผลให้ประธานวุฒิสภาทราบในกรณีที่ผู้ซึ่งวุฒิสภาให้ความเห็นชอบยังได้