Page 3 - พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560
P. 3
หน้า ๓
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๒๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๐
มาตรา ๖ ในการปฏิบัติหน้าที่ คณะกรรมการต้องให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือ
องค์กรอิสระทุกองค์กร ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่ามีผู้กระทําการอันไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่ใน
หน้าที่และอํานาจขององค์กรอิสระอื่น ให้คณะกรรมการมีหนังสือแจ้งองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องเพื่อ
ดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไปโดยไม่ชักช้า
ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าการดําเนินการเรื่องใดที่อยู่ในหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการ
อาจเข้าลักษณะเป็นการกระทําที่อยู่ในหน้าที่และอํานาจขององค์กรอิสระอื่นด้วย ให้คณะกรรมการ
ปรึกษาหารือร่วมกับองค์กรอิสระอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อกําหนดแนวทางในการดําเนินงานร่วมกันเพื่อให้
การปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ซ้ําซ้อนกัน
เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคสอง ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
มีอํานาจเชิญประธานองค์กรอิสระอื่นมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือและกําหนดแนวทางร่วมกันได้ และ
ให้องค์กรอิสระทุกองค์กรปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว
มาตรา ๗ ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรักษาการตามพระราชบัญญัติ
ประกอบรัฐธรรมนูญนี้
หมวด ๑
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
มาตรา ๘ คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติประกอบด้วยกรรมการจํานวนเจ็ดคน
ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคําแนะนําของวุฒิสภา จากผู้เป็นกลาง ทางการเมือง และมีความรู้
และประสบการณ์ด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นที่ประจักษ์เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปี
ในด้านดังต่อไปนี้ อย่างน้อยด้านละหนึ่งคนแต่จะเกินด้านละสองคนมิได้
(๑) มีประสบการณ์ในการทํางานด้านสิทธิมนุษยชนต่อเนื่องกัน
(๒) มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการสอนหรือทํางานวิจัยเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนใน
ระดับอุดมศึกษา
(๓) มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนทั้งภายในประเทศและ
ต่างประเทศที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ
(๔) มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหารงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครอง
สิทธิมนุษยชน
(๕) มีความรู้และประสบการณ์ด้านปรัชญา วัฒนธรรม ประเพณี และวิถีชีวิตของไทย
เป็นที่ประจักษ์ที่จะยังประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
ระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง ให้นับถึงวันสมัครหรือวันที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา
แล้วแต่กรณี