Page 6 - พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560
P. 6

หน้า   ๖

              เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๑๒๓   ก         ราชกิจจานุเบกษา                  ๑๒   ธันวาคม   ๒๕๖๐


                      (๖)  อาจารย์ประจําหรือผู้เคยเป็นอาจารย์ประจําในสถาบันอุดมศึกษาซึ่งสอนหรือทํางานวิจัย
              หรือทํางานด้านสิทธิมนุษยชนมาแล้วเป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปี  ซึ่งกรรมการตาม  (๑)  (๒)  (๓)  (๔)  และ

              (๕)  มีมติเลือกด้วยคะแนนเสียงสองในสามหนึ่งคน  เป็นกรรมการ
                      ให้เลขาธิการวุฒิสภาเป็นเลขานุการของคณะกรรมการสรรหา  และให้สํานักงานเลขาธิการ

              วุฒิสภาปฏิบัติหน้าที่เป็นหน่วยธุรการของคณะกรรมการสรรหา
                      องค์กรเอกชนด้านสิทธิมนุษยชนตาม  (๔)  และสภาวิชาชีพตาม  (๕)  ต้องเป็นองค์กรหรือ
              สภาวิชาชีพที่ได้จดแจ้งไว้กับสํานักงาน  โดยหลักเกณฑ์  วิธีการ  และเงื่อนไขการจดแจ้ง  การรับจดแจ้ง

              และการเลือกกันเองให้เป็นไปตามระเบียบที่คณะกรรมการกําหนด  โดยต้องกําหนดให้มีการเลือกกันเอง
              ให้แล้วเสร็จภายในสี่สิบห้าวันนับแต่วันที่มีกรณีที่ต้องสรรหาผู้สมควรได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการ

                      วิธีการเลือกกรรมการสรรหาตาม  (๖)  ให้เป็นไปตามที่กรรมการสรรหาตาม  (๑)  (๒)  (๓)  (๔)
              และ  (๕)  ตกลงร่วมกัน  ในกรณีที่พ้นกําหนดระยะเวลาตามวรรคสามแล้วยังไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งกรรมการ
              สรรหาตาม  (๒)  หรือ  (๕)  หรือมีไม่ครบไม่ว่าด้วยเหตุใดและมีผู้ดํารงตําแหน่งกรรมการสรรหาตาม  (๔)

              อย่างน้อยหนึ่งคน  ให้กรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่ดําเนินการตกลงและเลือกกรรมการสรรหาตาม  (๖)
              ได้ต่อไป  โดยต้องดําเนินการให้แล้วเสร็จภายในสามสิบวันนับแต่วันพ้นกําหนดระยะเวลาตามวรรคสาม

                      ในกรณีที่พ้นกําหนดเวลาการเลือกกรรมการสรรหาตาม  (๖)  แล้ว  ยังไม่มีผู้ดํารงตําแหน่ง
              กรรมการสรรหาตาม  (๒)  (๕)  หรือ  (๖)  หรือมีไม่ครบไม่ว่าด้วยเหตุใดและมีผู้ดํารงตําแหน่งกรรมการ
              สรรหาตาม  (๔)  อย่างน้อยหนึ่งคน  ให้คณะกรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่ปฏิบัติหน้าที่และใช้อํานาจ

              ไปพลางก่อนได้  โดยในระหว่างนั้นให้ถือว่าคณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยกรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่
                      มาตรา  ๑๒  ให้กรรมการสรรหาตามมาตรา  ๑๑  (๔)  (๕)  และ  (๖)  อยู่ในวาระการดํารงตําแหน่ง

              จนถึงวันก่อนวันที่มีกรณีที่ต้องสรรหากรรมการใหม่  แต่ไม่รวมถึงการสรรหาใหม่หรือการสรรหาเพิ่มเติม
              ตามมาตรา  ๑๓  วรรคห้า  มาตรา  ๑๔  วรรคสองและวรรคสาม  และมาตรา  ๑๕  และให้กรรมการสรรหา
              ดังกล่าวพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระเมื่อตาย  ลาออก  ขาดคุณสมบัติ  หรือมีลักษณะต้องห้าม

                      ผู้ซึ่งได้รับแต่งตั้งให้เป็นกรรมการสรรหาตามวรรคหนึ่งแล้ว  จะเป็นกรรมการสรรหาใน
              คณะกรรมการสรรหาสําหรับศาลรัฐธรรมนูญหรือองค์กรอิสระอื่นในขณะเดียวกันมิได้

                      ในกรณีที่ตําแหน่งกรรมการสรรหาว่างลง  ให้ดําเนินการให้มีการเลือกกรรมการสรรหา
              แทนโดยเร็ว  ในระหว่างที่ยังไม่ได้กรรมการสรรหาใหม่  ถ้ายังมีกรรมการสรรหาตั้งแต่ห้าคนขึ้นไป
              ให้คณะกรรมการสรรหาประกอบด้วยกรรมการสรรหาเท่าที่มีอยู่

                      ให้ประธานกรรมการสรรหาและกรรมการสรรหาเป็นเจ้าพนักงานตามประมวลกฎหมายอาญา
                      มาตรา  ๑๓  ในการสรรหากรรมการ  ให้คณะกรรมการสรรหาปฏิบัติหน้าที่ด้วยความเที่ยงธรรม

              ไม่เลือกปฏิบัติ  และปราศจากอคติทั้งปวง  โดยอย่างน้อยการสรรหาต้องมีกระบวนการ  ดังต่อไปนี้
                      (๑)  ประกาศให้ประชาชนทราบเป็นการทั่วไปถึงกระบวนการสรรหากรรมการ  โดยอย่างน้อย
              ต้องระบุจํานวนตําแหน่งกรรมการที่จะสรรหา  หลักเกณฑ์  วิธีการ  และระยะเวลาที่จะใช้ในการสรรหา
   1   2   3   4   5   6   7   8   9   10   11