Page 9 - พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560
P. 9
หน้า ๙
เล่ม ๑๓๔ ตอนที่ ๑๒๓ ก ราชกิจจานุเบกษา ๑๒ ธันวาคม ๒๕๖๐
ในกรณีที่กรรมการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ หรือพ้นจากตําแหน่งตามมาตรา ๒๐ (๔)
ให้กรรมการที่พ้นจากตําแหน่งปฏิบัติหน้าที่ต่อไปจนกว่าจะมีการแต่งตั้งกรรมการใหม่แทน
มาตรา ๒๐ นอกจากการพ้นจากตําแหน่งตามวาระ กรรมการพ้นจากตําแหน่งเมื่อ
(๑) ตาย
(๒) ลาออก
(๓) ขาดคุณสมบัติตามมาตรา ๘ หรือมาตรา ๙ หรือมีลักษณะต้องห้ามตามมาตรา ๑๐
(๔) พ้นจากตําแหน่งตามมาตรา ๔๐ วรรคสาม
เมื่อประธานกรรมการพ้นจากตําแหน่งประธานกรรมการ ให้พ้นจากตําแหน่งกรรมการด้วย
ในกรณีที่มีปัญหาว่ากรรมการผู้ใดพ้นจากตําแหน่งตาม (๒) (๓) หรือ (๔) หรือไม่ ให้เป็นหน้าที่
และอํานาจของคณะกรรมการสรรหาเป็นผู้วินิจฉัย คําวินิจฉัยของคณะกรรมการสรรหาให้เป็นที่สุด
ในกรณีที่ไม่มีผู้ดํารงตําแหน่งประธานกรรมการหรือมีแต่ไม่อาจปฏิบัติหน้าที่ได้ ให้กรรมการเลือก
กรรมการคนหนึ่งทําหน้าที่แทนประธานกรรมการ
ในระหว่างที่กรรมการพ้นจากตําแหน่งก่อนวาระ และยังไม่มีการแต่งตั้งกรรมการแทนตําแหน่ง
ที่ว่าง ให้กรรมการเท่าที่เหลืออยู่ปฏิบัติหน้าที่ต่อไปได้ แต่ถ้ามีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงสี่คน ให้กระทําได้
แต่เฉพาะการที่จําเป็นอันไม่อาจหลีกเลี่ยงได้
ในกรณีที่กรรมการจะพ้นจากตําแหน่งตามวาระ ให้ดําเนินการสรรหากรรมการใหม่ภายใน
หนึ่งร้อยห้าสิบวันก่อนวันที่กรรมการครบวาระ แต่ถ้ากรรมการพ้นจากตําแหน่งด้วยเหตุอื่นนอกจากการพ้นจาก
ตําแหน่งตามวาระ ให้ดําเนินการสรรหากรรมการภายในหนึ่งร้อยห้าสิบวันนับแต่วันที่ตําแหน่งว่างลง
มาตรา ๒๑ เมื่อมีผู้ร้องขอโดยมีหลักฐานตามสมควรว่ากรรมการผู้ใดพ้นจากตําแหน่ง
ตามมาตรา ๒๐ (๒) (๓) หรือ (๔) ให้เลขาธิการวุฒิสภาเสนอเรื่องต่อประธานกรรมการสรรหาภายในห้าวัน
นับแต่วันที่ได้รับการร้องขอ และให้คณะกรรมการสรรหาวินิจฉัยให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ในการวินิจฉัย
ให้ถือเสียงข้างมากและให้ใช้วิธีลงคะแนนโดยเปิดเผย ในกรณีที่มีเสียงเท่ากันให้ประธานกรรมการสรรหา
ออกเสียงเพิ่มขึ้นอีกเสียงหนึ่งเป็นเสียงชี้ขาด
หลักฐานตามวรรคหนึ่งให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการสรรหากําหนด
มาตรา ๒๒ ในกรณีที่กรรมการต้องหยุดปฏิบัติหน้าที่เพราะถูกกล่าวหาและศาลฎีกาหรือ
ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดํารงตําแหน่งทางการเมืองประทับรับฟ้อง และมีกรรมการเหลืออยู่ไม่ถึงกึ่งหนึ่ง
ให้ประธานศาลฎีกาและประธานศาลปกครองสูงสุดร่วมกันแต่งตั้งบุคคลซึ่งมีคุณสมบัติและไม่มี
ลักษณะต้องห้ามเช่นเดียวกับกรรมการทําหน้าที่เป็นกรรมการเป็นการชั่วคราวให้ครบเจ็ดคน โดยให้ผู้ซึ่ง
ได้รับแต่งตั้งทําหน้าที่ในฐานะกรรมการได้จนกว่ากรรมการที่ตนทําหน้าที่แทนจะปฏิบัติหน้าที่ได้
หรือจนกว่าจะมีการแต่งตั้งผู้ดํารงตําแหน่งแทน