Page 13 - รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทยและรายงานผลการปฏิบัติงานประจำปี 2556
P. 13
12 รายงานการประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย และรายงานผลการปฏิบัติงานประจำาปี ๒๕๕๖
จากการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนในประเทศไทยในปี ๒๕๕๖ ที่ผ่านมา มีสถานการณ์
สิทธิมนุษยชนที่สำาคัญ ดังนี้
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง
๑. การใช้เสรีภาพในการชุมนุมทางการเมือง
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ และกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิ
พลเมืองและสิทธิทางการเมือง ได้วางขอบเขตและหลักการของการแทรกแซงโดยรัฐต่อการใช้เสรีภาพ
ของบุคคลว่า หากการใช้เสรีภาพในการชุมนุมครั้งใด ผู้ชุมนุมได้ใช้สิทธิและเสรีภาพของตน โดยมีผล
เป็นการละเมิดต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่น หรือเป็นปฏิปักษ์ต่อรัฐธรรมนูญ หรือขัดต่อศีลธรรม
อันดีของประชาชน รัฐก็สามารถเข้าแทรกแซงด้วยการจำากัดการใช้เสรีภาพได้ แต่รัฐจะต้องกระทำา
โดยอาศัยอำานาจตามบทบัญญัติแห่งกฎหมาย โดยเฉพาะในกรณีการชุมนุมสาธารณะและเพื่อคุ้มครอง
ความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ หรือเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยในระหว่างเวลาที่ประเทศ
อยู่ในสภาวะสงคราม หรือในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน หรือประกาศใช้กฎอัยการศึก
การชุมนุมโดยเสรีภาพของบุคคลจึงมีขอบเขตมิได้เป็นเสรีภาพโดยบริบูรณ์ รัฐสามารถจำากัดได้โดยอาศัย
อำานาจตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่รัฐธรรมนูญกำาหนด ดังนั้น การใช้เสรีภาพในการชุมนุม ผู้ชุมนุม
จึงจำาต้องใช้ด้วยความระมัดระวัง ไม่กระทำาการใดที่เป็นการละเมิดต่อกฎหมาย และต้องไม่เป็นการใช้
เสรีภาพที่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อสิทธิและเสรีภาพของบุคคลอื่นๆ เกินสมควร และเมื่อใดที่รัฐเห็นว่า
การชุมนุมเริ่มไม่เป็นไปตามกรอบหรือมีการกระทำาที่เป็นการฝ่าฝืนต่อกฎหมายบ้านเมือง รัฐก็สามารถ
นำากฎหมายที่มีอยู่มาบังคับใช้เพื่อควบคุมฝูงชนได้ และในกรณีที่มีบุคคลหรือกลุ่มบุคคลใดกระทำา
ความผิดอาญาขึ้นในระหว่างที่มีการชุมนุม รัฐจึงมีความจำาเป็นที่จะต้องนำากฎหมายพิเศษมาใช้เพื่อ
ควบคุมสถานการณ์ความสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายใน
ราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ ได้กำาหนดเงื่อนไขและหลักเกณฑ์เพื่อให้อำานาจแก่ผู้มีอำานาจตามกฎหมาย
ประกาศใช้ในสถานการณ์พิเศษ ในกรณีเกิดเหตุการณ์อันกระทบต่อความมั่นคงภายในราชอาณาจักร
แต่ยังไม่มีความจำาเป็นต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน และเหตุการณ์นั้นมีแนวโน้มที่จะมีอยู่ต่อไป
เป็นเวลานาน ดังนั้น การดำาเนินการของรัฐบาลในการแก้ไขปัญหาการชุมนุมจากเหตุการณ์ดังกล่าว
ภายใต้พระราชบัญญัติการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร พ.ศ. ๒๕๕๑ รัฐบาลต้องมีหน้าที่
ควบคุมการชุมนุมให้อยู่ภายใต้กฎหมาย และต้องตระหนักถึงการใช้มาตรการจัดการการชุมนุมโดย
จะต้องกระทำาเท่าที่จำาเป็น คำานึงถึงความเหมาะสม มีลำาดับขั้นตอนตามหลักสากลที่ใช้ในการสลาย
การชุมนุมของประชาชน และรัฐต้องกระทำาจากเบาไปหาหนักภายใต้บทบัญญัติของกฎหมาย