Page 15 - รายงานศึกษาวิจัยฉบับสมบูรณ์ โครงการศึกษาวิจัยผังเมืองกับการคุ้มครองสิทธิชุมชนและสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชน
P. 15
สำานักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ดังนั้น การแก้ไขปัญหาผังเมืองและการส่งเสริมสิทธิชุมชนและสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชน
จึงมิใช่เพียงการแก้ไขกระบวนการวางผังหรือกฎหมายผังเมืองเพียงเท่านั้น ควรมีการส่งเสริมสิทธิชุมชน
และสิทธิการมีส่วนร่วมของประชาชนในการกำาหนดทางเลือก ทิศทางของชุมชนในกระบวนการประเมิน
สิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ อันเป็นเครื่องมือสำาคัญที่จะกำาหนดทิศทาง ทางเลือกการพัฒนาพื้นที่และ
ลดการขัดกันของการใช้ประโยชน์ที่ดินจากการพัฒนาที่ไม่สอดคล้องกัน
หน่วยงานที่กำาหนดนโยบายเชิงพื้นที่ในด้านต่างๆ เช่น สำานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจ
และสังคมแห่งชาติสำานักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมกรมโยธาธิการและ
ผังเมืองจึงควรจัดทำาการประเมินผลกระทบระดับยุทธศาสตร์และประสานกับหน่วยงานที่จัดทำาแผนแม่บท
พัฒนาพื้นที่ด้านต่างๆ ที่จะใช้เครื่องมือการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมระดับยุทธศาสตร์ไปใช้ประโยชน์
ในกระบวนการกำาหนดนโยบาย การตัดสินใจและกระบวนการวางผังเมือง ให้เกิดทางเลือกในการพัฒนา
พื้นที่อย่างมีส่วนร่วม
2) ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองจัดทำาคู่มือ แนวทางการใช้หลักการคุ้มครองล่วงหน้า หลักการ
มีส่วนร่วม และหลักการพัฒนาที่ยั่งยืน เพื่อเป็นแนวทางสำาหรับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการปฏิบัติและ
ใช้ประโยชน์จากผังเมือง
ในการใช้อำานาจและการทำาหน้าที่ตามพระราชบัญญัติการผังเมือง พ.ศ. 2518 และกฎหมาย
ที่เกี่ยวข้อง เช่น พระราชบัญญัติควบคุมอาคาร พ.ศ. 2522 พระราชบัญญัติส่งเสริมและรักษาคุณภาพ
สิ่งแวดล้อม พ.ศ. 2535 ในการนำาสาระของผังเมืองรวมที่ผ่านการรับฟังความคิดเห็นของประชาชน และ
ผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี ไปประกอบการใช้ดุลพินิจในการพิจารณารายงานวิเคราะห์ผลกระทบ
สิ่งแวดล้อม การกำาหนดพื้นที่คุ้มครองสิ่งแวดล้อม การควบคุมอาคาร การจัดทำาเทศบัญญัติ ข้อบัญญัติ
ท้องถิ่น เพื่อให้เกิดการนำาสาระในผังเมืองไปใช้ประโยชน์ในคุ้มครองสิทธิชุมชนและสิทธิการมีส่วนร่วมของ
ประชาชน ในช่วงที่ผังเมืองรอประกาศใช้บังคับ
การจัดทำาคู่มือนี้ ควรมีการศึกษาวิจัยประกอบ โดยควรเป็นการทำางานมีส่วนร่วมขององค์กรวิชาชีพ
ด้านผังเมือง องค์กรด้านสิ่งแวดล้อมองค์กรด้านกฎหมายและสิทธิมนุษยชน ทั้งภาครัฐ ภาคประชาสังคม
โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสามารถเป็นองค์กรสนับสนุน เช่น กรมโยธาธิการและผังเมือง เป็นต้น
3) ให้กรมโยธาธิการและผังเมืองปรับปรุงมาตรฐานการกำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินและการจัดทำา
ข้อกำาหนดให้เป็นไปตามหลักวิชาการโดยกรมโยธาธิการและผังเมืองควรเป็นหน่วยงานหลักประสานกับ
หน่วยงานด้านอุตสาหกรรม พลังงาน เหมืองแร่ องค์กรวิชาการวิชาชีพเพื่อให้การวางผังเมืองสามารถ
กำาหนดการใช้ประโยชน์ที่ดินที่มีการจัดทำาข้อกำาหนดและมาตรการควบคุมให้ทันต่อสถานการณ์การพัฒนา
ป้องกันผลกระทบต่อชุมชน จึงควรมีการศึกษาร่วมมือระหว่างหน่วยงานและองค์การที่เกี่ยวข้อง ในการ
พิจารณาจัดกลุ่มประเภทกิจกรรมที่มีกระบวนการผลิต การใช้วัตถุดิบที่อาจเป็นอันตราย การจัดการของ
เสียที่มีลักษณะต่างกัน รวมทั้งความต้องการใช้ทรัพยากร เช่น ที่ดิน นำ้า รวมทั้งที่ตั้งเฉพาะ เพื่อจัดทำาบัญชี
14