สิทธิมนุษยชนในอิสลามกับการรับรองสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย

ประเภท เลขเรียก สถานที่ สถานะ

BP190.5.H91 ส766 2550

มุมวิทยานิพนธ์ & วิจัย

ถูกยืม กำหนดส่ง
วันที่ 11 ธันวาคม 2567

จอง
เลขเรียก
BP190.5.H91 ส766 2550
ผู้แต่ง
ชื่อเรื่อง
สิทธิมนุษยชนในอิสลามกับการรับรองสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย / สุดปรารถนา นีละไพจิตร
ชื่อเรื่องที่แตกต่าง
Human rights in Islam and the guarantee of rigths and liberties under the constitutions of Kingdom of Thailand
พิมพลักษณ์
กรุงเทพฯ : คณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550.
รูปเล่ม
ก-ฒ, 301 แผ่น ; 30 ซม.
หมายเหตุวิทยานิพนธ์
วิทยานิพนธ์ (น.ม. นิติศาสตร์) -- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550
บทคัดย่อ
สิทธิมนุษยชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ซึ่งได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และหลักคำสอนของศาสนาอิสลามเองก็กล่าวถึงสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน เบื้องต้นจึงสันนิษฐานได้ว่าหลักคำสอนของศาสนาอิสลามให้ความสำคัญกับการรับรองสิทธิมนุษยชนในลักษณะที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลการศึกษาก็พบว่าศาสนาอิสลามเป็นอีกศาสนาหนึ่งที่มีหลักคำสอนเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วโลกก็ได้รวมตัวกันก่อตั้งองค์การอิสลาม หรือ O.I.C และบัญญัติปฏิญญาไคโรว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในอิสลาม ค.ศ. 1990 (The Cairo Declaration on Human Rights in Islam 1990 ) ขึ้น โดยสิทธิมนุษยชนที่บัญญัติในปฏิญญานี้ล้วนแต่สอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948 อาจมีส่วนที่ต่างกันบ้างแต่ก็เป็นเพียงรายละเอียดเท่านั้น สำหรับการรับรองสิทธิเสรีภาพของมุสลิมในประเทศไทยเห็นว่า แม้หลักสิทธิมนุษยชนตามหลักศาสนาอิสลามจะคล้ายคลึงกับสิทธิเสรีภาพที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแต่จำต้องมีการตรากฎหมายลำดับรองเพื่อให้การรับรองสิทธิเสรีภาพด้านต่าง ๆ สัมฤทธิ์ผลตามหลักศาสนาอิสลามได้ซึ่งปัจจุบันมีพระราชบัญญัติมารับรองเพื่อให้สิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาอิสลามได้รับความคุ้มครองอย่างจริงจังโดยมีการตรากฎหมายเฉพาะเรื่อง 4 ฉบับด้วยกัน ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าหลักสิทธิมนุษยชนในศาสนาอิสลามซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนของตะวันตกสามารถนำมาปรับใช้กับสังคมไทยได้เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมแบบพหุวัฒนธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังสามารถการนำหลักชะรีอะฮ์หรือแนวทางการดำเนินชีวิตตามครรลองของศาสนาอิสลามมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้วิธีการจัดการความขัดแย้งเชิงสมานฉันท์ในชุมชนมุสลิมเป็นกระบวนการยุติธรรมทางเลือก เนื่องจากหากเข้าใจหลักการและแนวคิดทางศาสนาแล้วจะเห็นว่าสอดคล้องและนำมาใช้ในสังคมไทยได้เป็นอย่างดี.
หัวเรื่อง
หัวเรื่อง
หัวเรื่อง
หัวเรื่อง
หัวเรื่อง
คำศัพท์เนื้อหา
ผู้แต่งร่วม
ผู้แต่งนิติบุคคล
สารบัญ
LEADER : 00000nab 2200000uu 4500
008   131212s2550||||th m 000 0 tha d
050  4^aBP190.5.H91^bส766 2550
100 0 ^aสุดปรารถนา นีละไพจิตร
245 10^aสิทธิมนุษยชนในอิสลามกับการรับรองสิทธิเสรีภาพตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย /^cสุดปรารถนา นีละไพจิตร
246 31^aHuman rights in Islam and the guarantee of rigths and liberties under the constitutions of Kingdom of Thailand
260   ^aกรุงเทพฯ :^bคณะนิติศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, ^c2550.
300   ^aก-ฒ, 301 แผ่น ^c30 ซม.
502   ^aวิทยานิพนธ์ (น.ม. นิติศาสตร์) -- จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย, 2550
520   ^aสิทธิมนุษยชน เป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของความเป็นมนุษย์ซึ่งได้รับการรับรองโดยรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย และหลักคำสอนของศาสนาอิสลามเองก็กล่าวถึงสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน เบื้องต้นจึงสันนิษฐานได้ว่าหลักคำสอนของศาสนาอิสลามให้ความสำคัญกับการรับรองสิทธิมนุษยชนในลักษณะที่สอดคล้องกับบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ ซึ่งผลการศึกษาก็พบว่าศาสนาอิสลามเป็นอีกศาสนาหนึ่งที่มีหลักคำสอนเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชน และกลุ่มประเทศที่นับถือศาสนาอิสลามทั่วโลกก็ได้รวมตัวกันก่อตั้งองค์การอิสลาม หรือ O.I.C และบัญญัติปฏิญญาไคโรว่าด้วยสิทธิมนุษยชนในอิสลาม ค.ศ. 1990 (The Cairo Declaration on Human Rights in Islam 1990 ) ขึ้น โดยสิทธิมนุษยชนที่บัญญัติในปฏิญญานี้ล้วนแต่สอดคล้องกับปฏิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ค.ศ. 1948 อาจมีส่วนที่ต่างกันบ้างแต่ก็เป็นเพียงรายละเอียดเท่านั้น สำหรับการรับรองสิทธิเสรีภาพของมุสลิมในประเทศไทยเห็นว่า แม้หลักสิทธิมนุษยชนตามหลักศาสนาอิสลามจะคล้ายคลึงกับสิทธิเสรีภาพที่ได้รับรองไว้ในรัฐธรรมนูญแต่จำต้องมีการตรากฎหมายลำดับรองเพื่อให้การรับรองสิทธิเสรีภาพด้านต่าง ๆ สัมฤทธิ์ผลตามหลักศาสนาอิสลามได้ซึ่งปัจจุบันมีพระราชบัญญัติมารับรองเพื่อให้สิทธิเสรีภาพในการดำเนินชีวิตและปฏิบัติศาสนกิจตามหลักศาสนาอิสลามได้รับความคุ้มครองอย่างจริงจังโดยมีการตรากฎหมายเฉพาะเรื่อง 4 ฉบับด้วยกัน ทั้งนี้จากการศึกษาพบว่าหลักสิทธิมนุษยชนในศาสนาอิสลามซึ่งมีความสอดคล้องกับหลักสิทธิมนุษยชนของตะวันตกสามารถนำมาปรับใช้กับสังคมไทยได้เนื่องจากสังคมไทยเป็นสังคมแบบพหุวัฒนธรรม โดยเฉพาะในพื้นที่สี่จังหวัดชายแดนภาคใต้ นอกจากนี้ยังสามารถการนำหลักชะรีอะฮ์หรือแนวทางการดำเนินชีวิตตามครรลองของศาสนาอิสลามมาใช้ในการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งต่าง ๆ อาจเป็นอีกทางเลือกหนึ่งในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยใช้วิธีการจัดการความขัดแย้งเชิงสมานฉันท์ในชุมชนมุสลิมเป็นกระบวนการยุติธรรมทางเลือก เนื่องจากหากเข้าใจหลักการและแนวคิดทางศาสนาแล้วจะเห็นว่าสอดคล้องและนำมาใช้ในสังคมไทยได้เป็นอย่างดี.
650  4^aสิทธิมนุษยชน^zไทย  
650  4^aศาสนาอิสลาม^zไทย  
650  4^aสิทธิมนุษยชน^xกฎหมายและระเบียบข้อบังคับ^zไทย  
650  4^aกฎหมายรัฐธรรมนูญ^zไทย  
650  4^aสิทธิมนุษยชน^xแง่ศาสนา
655  4^aวิทยานิพนธ์
700 0 ^aSudprathana Neelapaichit
710 2 ^aจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ^bคณะนิติศาสตร์
856 40^3สารบัญ^uhttp://library.nhrc.or.th/ulib/document/Content/T07907.pdf
917   ^aCU :^c500
955   ^a1 เล่ม
999   ^acat1
เลื่อนขึ้นด้านบน