Page 2 - หลักสูตรธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนสำหรับรัฐวิสาหกิจ
P. 2
1. ควำมเป็นมำ
การประกอบธุรกิจโดยเคารพในสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์นั้น นอกจากจะท าให้ธุรกิจเป็นที่ยอมรับแล้วยังเป็นโอกาสน าประเทศสู่การพัฒนาที่
ยั่งยืน เพราะธุรกิจคือพลังขับเคลื่อนความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ และสิทธิมนุษยชนคือ การดูแลคนทุกคนให้สามารถด ารงชีวิตอยู่ได้อย่างมีศักดิ์ศรี มีความ
ปลอดภัยในชีวิต มีมาตรฐานการครองชีพที่เหมาะสม มีโอกาสเท่าเทียมในการเข้าถึงบริการของรัฐ และได้รับการปฏิบัติที่เป็นธรรม ดังนั้น ธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนก็คือการสร้าง
ความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจควบคู่ไปกับการสร้างความเป็นธรรมทางสังคม จากความส าคัญดังกล่าว องค์การสหประชาชาติจึงได้มีการรับรองเอกสารหลักการชี้แนะเรื่องสิทธิ
มนุษยชนส าหรับธุรกิจ (UN Guiding Principles on Business and Human Rights – UNGP) ตามกรอบงานของสหประชาชาติ ในการคุ้มครอง เคารพ และเยียวยา ที่เกิดขึ้น
บน 3 เสาหลักคือ ให้รัฐมีหน้าที่ในการ ‘คุ้มครอง’ ประชาชน (State Duty to Protect) จากการถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนที่กระท าโดยบุคคลรวมทั้งองค์กรภาคธุรกิจ ให้ภาคธุรกิจ
‘เคารพ’ ในหลักสิทธิมนุษยชน (Corporate Responsibility to Respect) ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจระดับใดก็ตาม และการเข้าถึง “การเยียวยา” (Access to Effective Remedy)
ผู้ที่ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนต้องเข้าถึงการเยียวยาที่มีประสิทธิผลได้มากขึ้น ซึ่งประเทศไทยเองได้ให้ค ามั่นต่อที่ประชุมคณะมนตรีสิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติในการพิจารณา
สถานการณ์สิทธิมนุษยชนในประเทศไทย เมื่อเดือนพฤษภาคม 2560 ว่าจะด าเนินการจัดท าแผนปฏิบัติการระดับชาติเรื่องธุรกิจกับสิทธิมนุษยชน และแสดงให้เห็นโดยประจักษ์ใน
การร่วมลงนามปฏิญญาความร่วมมือเพื่อขับเคลื่อนหลักการชี้แนะว่าด้วยธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของสหประชาชาติ (UNGPs) ในภาคีเครือข่าย 8 องค์กร ประกอบด้วย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงยุติธรรม สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย สมาคมธนาคารไทย สภาหอการค้าแห่ง
ประเทศไทย และเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กประเทศไทย เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2560 ณ ศูนย์ประชุมสหประชาชาติ กรุงเทพมหานคร โดยมีนายกรัฐมนตรี พลเอกประยุทธ์
จันทร์โอชา เป็นสักขีพยานในการลงนาม เพื่อแสดงให้เห็นถึงศักยภาพและพลังของหน่วยงานภาครัฐ รัฐวิสาหกิจ และภาคเอกชนที่มีความพร้อมในการสามารถด าเนินธุรกิจควบคู่
ไปกับการเคารพสิทธิมนุษยชน เพื่อร่วมกันน าประเทศไปสู่ “ความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน”
ในภาครัฐนั้นถือว่าหลักการรัฐวิสาหกิจ (State - owned enterprises; SOEs) เป็นกลไกส าคัญของรัฐในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและการลงทุนของประเทศ รวมถึง
เป็นผู้ให้บริการสาธารณะแก่ประชาชน ไม่เพียงแต่ในระดับประเทศเท่านั้น รัฐวิสาหกิจยังมีความส าคัญอย่างยิ่งต่อระบบเศรษฐกิจโลก เนื่องจากรัฐวิสาหกิจของประเทศต่าง ๆ ได้
ด าเนินการทั้งภายในประเทศและนอกประเทศในภาคอุตสาหกรรมที่ส าคัญและเกี่ยวข้องต่อปัจจัยในการด ารงชีวิตของประชาชนในปัจจุบันแทบทั้งสิ้น อาทิ โครงสร้างพื้นฐาน การ
ขนส่งคมนาคม พลังงาน การสื่อสารโทรคมนาคม และการธนาคาร ฯลฯ
จากข้อมูลพบว่าปัจจุบันรัฐวิสาหกิจในประเทศไทยมีจ านวนรวมทั้งสิ้น 56 แห่ง มีมูลค่าทรัพย์สินรวมประมาณ 6 ล้านล้านบาท และรัฐวิสาหกิจยังสามารถสร้าง
1
รายได้ให้แก่ประเทศรวมประมาณ 2.7 ล้านล้านบาท และท าก าไรได้รวมประมาณ 2.3 แสนล้านบาท อันเป็นตัวเลขมหาศาลในระบบเศรษฐกิจ การด าเนินงานของรัฐวิสาหกิจจึง
เป็นหนึ่งในปัจจัยส าคัญต่อระบบเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศไทย ขณะที่ในช่วงหลายปีที่ผ่านมาสถานการณ์ด้านธุรกิจกับสิทธิมนุษยชนของประเทศไทยเป็นที่จับตามอง
1 ส านักงานคณะกรรมการนโยบายรัฐวิสาหกิจ, การพัฒนาและการก ากับดูแลรัฐวิสาหกิจ, http://www.sepo.go.th/content/67