Page 13 - งานเชิดชูเกียรติผู้หญิงนักปกป้องสิทธิมนุษยชนวันสตรีสากล 2560
P. 13
ที่รู้จักอย่างกว้างขวาง โดยเฉพาะในระดับนานาชาติ เกี่ยวกับประเด็นการมีส่วนร่วม
ในการอุปสมบทของผู้หญิง
อีกทั้งหัวข้อวิทยานิพนธ์ปริญญาเอก เรื่อง “การศึกษาเปรียบเทียบภิกษุณี
ปาติโมกข์ใน ๖ นิกาย” ซึ่งเป็นการประกันได้ว่าอย่างน้อยที่สุดท่านเป็นคนหนึ่ง
ที่รู้เรื่องภิกษุณีมากที่สุด ท�าให้ความรู้ความเข้าใจของท่านหยั่งรากลึก ไม่เพียงแต่
พุทธนิกายเถรวาทเท่านั้น แต่ยังมีความรู้ในนิกายอื่นๆ อีกด้วย เป็นความแข็งแกร่ง
ทางวิชาการซึ่งท�าให้ท่านสามารถก้าวข้ามอุปสรรคเรื่องการบวชภิกษุณีมาได้ตั้งแต่
ต้น น�าไปสู่ความเข้าใจในสิทธิและหน้าที่ของตัวเอง และเป็นผลให้ท่านสามารถ
ปกป้องสิทธิและหน้าที่ของผู้หญิงบนเส้นทางภิกษุณีสงฆ์ได้อย่างมั่นคง
ย้อนกลับไปในปี พ.ศ. 2526 ซึ่งถือเป็นปีที่เกิดการเปลี่ยนแปลงอย่างแท้จริง
ในชีวิตของท่าน เมื่อท่านได้รับเชิญจากมหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ให้เข้าร่วมการประชุม
เรื่อง “ผู้หญิง ศาสนา และการเปลี่ยนแปลงทางสังคม”
“ตอนนั้นกำรประชุมพูดเรื่องศำสนำ ผู้หญิง และกำรเปลี่ยนแปลงในสังคม
ซึ่งผู้เข้ำร่วมประชุมเป็นผู้หญิงทั้งหมด ร้องไห้กันเยอะ เห็นควำมทุกข์ยำกของผู้หญิง
จึงมำเริ่มสรุปและเห็นด้วยกับสิ่งที่เขำต่อสู้ ท�ำไมผู้หญิงมีควำมโกรธ พอกลับมำบ้ำน
ตั้งใจมำศึกษำปฏิบัติธรรมที่ชัดเจน เป็นจุดหักเหที่ท�ำให้ตั้งใจว่ำจะไม่เป็นนักวิชำกำร
เท่ำนั้น” เมื่อกลับมา “หลวงแม่” พิจารณาการปฏิบัติธรรมทางพุทธให้ชัดเจนมากขึ้น
“เรื่องที่ควรท�ำ ไม่ว่ำจะเป็นเรื่องเด็ก เรื่องผู้หญิง ควำมรุนแรง ควำม
ทุกข์ยำกของคน ควำมไม่ยุติธรรมที่เป็นรูปธรรมชัดเจนที่สุด เรำจะท�ำอย่ำงไร
ที่จะต่อสู้กับสิ่งเหล่ำนี้ โดยที่ตัวเรำเองยังคงรักษำควำมสงบในจิตใจของเรำเอำไว้ได้
นี่คือโจทย์ใหญ่”
ภายหลังการบรรพชาของ “หลวงแม่” ซึ่งสังคมในขณะนั้นยังไม่เข้าใจ
จึงท�าให้ท่านถูกโจมตี
“ช่วงที่บวชกลับมำใหม่ จะโดนโจมตีอย่ำงมำก แต่เรำก็ไม่หวั่นไหว ยึดเพียง
หลักค�ำสอนของพระพุทธศำสนำ เพรำะเมื่อเรำมั่นคงในธรรมะ ธรรมะก็จะรักษำ
เรำได้ และหำกเรำเชื่อพระพุทธศำสนำ พระพุทธศำสนำก็จะปกป้องเรำให้พ้นจำก
ภัยพำลทั้งหลำยได้”
12