Page 11 - ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ : เล่ม 2 ระหว่าง มกราคม - มิถุนายน 2558
P. 11
9
ประมวลรายงานผลการพิจารณาเพื่อเสนอแนะนโยบายหรือข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ
ของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ เล่ม ๒ ระหว่าง มกราคม – มิถุนายน ๒๕๕๘
ของผู้จัดการชุมนุมไว้หลายประการ บางมาตราไม่อาจปฏิบัติได้ จึงไม่สอดคล้องกับหลักการตาม ICCPR และ
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ร่างมาตรา ๒๑ - ๒๘ มีบทบัญญัติที่จำากัดเสรีภาพในการชุมนุมไว้หลายประการ
เช่น ให้ถือว่าการชุมนุมที่ไม่แจ้ง หรือไม่เลิกชุมนุมเมื่อมีคำาสั่งห้าม เป็นการชุมนุมไม่ชอบด้วยกฎหมาย ให้ถือว่า
กรณีประกาศให้ผู้ชุมนุมออกจากพื้นที่ควบคุมแล้วไม่ออก เป็นความผิดซึ่งหน้า การให้เจ้าพนักงานใช้กำาลัง
หรือเครื่องมือควบคุมฝูงชนโดยไม่มีกรอบชัดเจน การยกเว้นความรับผิดทางแพ่ง อาญา วินัย ให้แก่เจ้าพนักงาน
การให้การกระทำาตามร่างพระราชบัญญัติฯ ไม่อยู่ในบังคับของกฎหมายวิธีปฏิบัติราชการทางปกครองนั้น เห็นว่า
ข้อพิพาทจากการชุมนุมอาจเป็นข้อพิพาททางปกครอง แพ่ง อาญา จึงไม่ควรบัญญัติให้เหตุที่เกิดขึ้นทุกคดี
อยู่ภายใต้ศาลใดศาลหนึ่งบทกำาหนดโทษตามร่างพระราชบัญญัติฯ ควรใช้โทษทางปกครองเนื่องจากมีลักษณะ
เป็นความผิดทางปกครอง เป็นต้น
เมื่อวันที่ ๑๔ กรกฎาคม ๒๕๕๘ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติ
การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ ขึ้น โดยให้ใช้บังคับเมื่อพ้นกำาหนดสามสิบวันนับแต่วันประกาศ
ในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป เหตุผลในการประกาศใช้พระราชบัญญัติฉบับนี้ คือ โดยที่เป็นการสมควร
กำาหนดหลักเกณฑ์การใช้สิทธิชุมนุมสาธารณะให้ชัดเจนและโดยสอดคล้องกับกติการะหว่างประเทศว่าด้วย
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมืองที่ประเทศไทยเป็นภาคี ทั้งนี้ เพื่อให้การชุมนุมสาธารณะเป็นไปด้วย
ความสงบเรียบร้อยไม่กระทบกระเทือนต่อความมั่นคงของชาติ ความปลอดภัยสาธารณะ ความสงบเรียบร้อย
หรือศีลธรรมอันดีตลอดจนสุขอนามัยของประชาชน หรือความสะดวกของประชาชนที่จะใช้ที่สาธารณะ
และไม่กระทบกระเทือนสิทธิและเสรีภาพและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ของผู้อื่น ซึ่งจากการพิจารณาพบว่า
มีหลายประเด็นที่เป็นไปตามข้อเสนอแนะนโยบายและข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมายที่คณะกรรมการฯ เสนอ
เช่น การกำาหนดพื้นที่ห้ามชุมนุม โดยบัญญัติแยกรัฐสภา ทำาเนียบรัฐบาล และศาล ออกจากสถานที่ประทับ
ไม่ได้กำาหนดให้ผู้จัดการชุมนุมต้องอยู่ด้วยตลอดระยะเวลาการชุมนุม การแจ้งการชุมนุมสามารถแจ้ง
ทางจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ขยายเวลาการปราศรัยจาก ๒๒.๐๐ น. เป็น ๒๔.๐๐ น. และเจ้าหน้าที่ของรัฐต้อง
ผ่านการฝึกอบรม เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม มีหลายประเด็นที่บทบัญญัติในพระราชบัญญัติดังกล่าวไม่สอดคล้องกับข้อเสนอแนะฯ
ของคณะกรรมการฯ หรือไม่สอดคล้องกับกติกา ICCPR หรือไม่สอดคล้องเจตนารมณ์แห่งพระราชบัญญัตินี้เอง
เช่น กรณีไม่แจ้งการชุมนุม เจ้าพนักงานออกคำาสั่งให้เลิกการชุมนุมได้ การให้ดุลพินิจแก่รัฐมนตรีในการประกาศ
สถานที่ห้ามการชุมนุมฯ กีดขวางทางเข้าออก หรือรบกวนการปฏิบัติงานเพิ่มเติม เจ้าพนักงานมีอำานาจจับ ค้น
ยึด อายัด รื้อถอนทรัพย์สินโดยไม่ต้องผ่านการวินิจฉัยตามกระบวนการยุติธรรมทางศาล การไม่นำาพระราชบัญญัติ
การชุมนุมสาธารณะ พ.ศ. ๒๕๕๘ มาใช้กับการชุมนุมสาธารณะในระหว่างเวลาที่มีประกาศสถานการณ์ฉุกเฉิน
หรือประกาศใช้กฎอัยการศึก การมีข้อกำาหนดที่ทำาให้พื้นที่ในการชุมนุมลดลงหรือเป็นไปไม่ได้เลย เช่น ห้ามจัด
การชุมนุมในรัศมีหนึ่งร้อยห้าสิบเมตรจากพระบรมมหาราชวัง พระราชวัง วัง พระราชนิเวศน์ พระตำาหนัก
ซึ่งอาจไม่ใช่สถานที่ประทับหรือพำานัก หรือสถานที่พำานัก แม้มีบทบัญญัติให้ประชาชนอาจชุมนุมในสถานที่
ที่หน่วยงานของรัฐจัดให้ได้ ก็ไม่ได้กำาหนดให้เป็นหน้าที่ที่หน่วยงานของรัฐใด ทั้งไม่มีบทกำาหนดให้มีกลไกรองรับ
การชุมนุมสาธารณะ เช่น องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ฯลฯ เพื่อแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการบริหารราชการแผ่นดิน
อำานวยความสะดวก และจัดสถานที่ในการชุมนุมสาธารณะ เป็นต้น รายละเอียดอยู่ในผลงานลำาดับที่ ๑