Page 11 - ระเบียบ ประกาศ และหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการบริหารทรัพยากรบุคคลตามที่คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติกำหนด
P. 11

หน้า   ๓
             เล่ม   ๑๓๔   ตอนที่   ๑๒๓   ก   ราชกิจจานุเบกษา            ๑๒   ธันวาคม   ๒๕๖๐


                    มาตรา  ๖  ในการปฏิบัติหน้าที่  คณะกรรมการต้องให้ความร่วมมือและความช่วยเหลือ
             องค์กรอิสระทุกองค์กร  ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่ามีผู้กระทําการอันไม่ชอบด้วยกฎหมายแต่อยู่ใน
             หน้าที่และอํานาจขององค์กรอิสระอื่น  ให้คณะกรรมการมีหนังสือแจ้งองค์กรอิสระที่เกี่ยวข้องเพื่อ
             ดําเนินการตามหน้าที่และอํานาจต่อไปโดยไม่ชักช้า
                    ในกรณีที่คณะกรรมการเห็นว่าการดําเนินการเรื่องใดที่อยู่ในหน้าที่และอํานาจของคณะกรรมการ
             อาจเข้าลักษณะเป็นการกระทําที่อยู่ในหน้าที่และอํานาจขององค์กรอิสระอื่นด้วย  ให้คณะกรรมการ
             ปรึกษาหารือร่วมกับองค์กรอิสระอื่นที่เกี่ยวข้องเพื่อกําหนดแนวทางในการดําเนินงานร่วมกันเพื่อให้
             การปฏิบัติหน้าที่ของแต่ละองค์กรเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและไม่ซ้ําซ้อนกัน
                    เพื่อประโยชน์ในการดําเนินการตามวรรคสอง  ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
             มีอํานาจเชิญประธานองค์กรอิสระอื่นมาร่วมประชุมเพื่อปรึกษาหารือและกําหนดแนวทางร่วมกันได้  และ
             ให้องค์กรอิสระทุกองค์กรปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าว
                    มาตรา  ๗  ให้ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติรักษาการตามพระราชบัญญัติ
             ประกอบรัฐธรรมนูญนี้

                                                หมวด  ๑
                                      คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ


                    มาตรา  ๘  คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติประกอบด้วยกรรมการจํานวนเจ็ดคน

             ซึ่งพระมหากษัตริย์ทรงแต่งตั้งตามคําแนะนําของวุฒิสภา  จากผู้เป็นกลางทางการเมือง  และมีความรู้
             และประสบการณ์ด้านการคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพของประชาชนเป็นที่ประจักษ์เป็นเวลาไม่น้อยกว่าสิบปี
             ในด้านดังต่อไปนี้  อย่างน้อยด้านละหนึ่งคนแต่จะเกินด้านละสองคนมิได้
                    (๑)  มีประสบการณ์ในการทํางานด้านสิทธิมนุษยชนต่อเนื่องกัน
                    (๒)  มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการสอนหรือทํางานวิจัยเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนใน
             ระดับอุดมศึกษา
                    (๓)  มีความรู้ความเชี่ยวชาญด้านกฎหมายเกี่ยวกับสิทธิมนุษยชนทั้งภายในประเทศและ
             ต่างประเทศที่จะยังประโยชน์ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของคณะกรรมการ
                    (๔)  มีความรู้และประสบการณ์ด้านการบริหารงานภาครัฐที่เกี่ยวกับการส่งเสริมและคุ้มครอง
             สิทธิมนุษยชน
                    (๕)  มีความรู้และประสบการณ์ด้านปรัชญา  วัฒนธรรม  ประเพณี  และวิถีชีวิตของไทย
             เป็นที่ประจักษ์ที่จะยังประโยชน์ในการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
                    ระยะเวลาตามวรรคหนึ่ง  ให้นับถึงวันสมัครหรือวันที่ได้รับการเสนอชื่อเข้ารับการสรรหา
             แล้วแต่กรณี








                                                                                                   3
   6   7   8   9   10   11   12   13   14   15   16