Page 15 - รายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2563
P. 15
บทสรุปผู้บริหาร
การจัดทำารายงานผลการประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศฉบับนี้ เป็นการดำาเนินการ
ตามหน้าที่และอำานาจของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ที่บัญญัติในมาตรา 247 (2) ของรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 และมาตรา 26 (2) แห่งพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วย
คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ พ.ศ. 2560 โดยในการจัดทำารายงานดังกล่าว กสม. ได้ประมวลข้อมูลจากเหตุการณ์
ด้านสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในปี 2563 ทั้งข้อมูลจากการดำาเนินการของหน่วยงานของรัฐ ข้อมูลจากภาคประชาชน ข้อมูล
จากการปฏิบัติงานของ กสม. และจากการประชุมรับฟังความเห็นจากฝ่ายต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง แล้วนำาข้อมูลที่ได้มาวิเคราะห์
และพิจารณาเปรียบเทียบกับสิทธิต่าง ๆ ที่ได้รับการรับรองไว้ในรัฐธรรมนูญ กฎหมายภายในและหนังสือสัญญา
ที่ประเทศไทยเป็นภาคีและมีพันธกรณีที่จะต้องปฏิบัติตาม เพื่อประเมินสถานการณ์สิทธิในแต่ละด้านและจัดทำาข้อเสนอแนะ
โดยได้แบ่งการประเมินสถานการณ์ออกเป็น 4 ด้าน ตามขอบเขตของสนธิสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนและ
ประเด็นสิทธิมนุษยชนที่สำาคัญในบริบทของประเทศไทยในปี 2563 ได้แก่ (1) การประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
ในสถานการณ์เฉพาะ (2) การประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (3) การประเมินสถานการณ์
ด้านสิทธิทางเศรษฐกิจสังคมและวัฒนธรรม และ (4) การประเมินสถานการณ์ด้านสิทธิมนุษยชนของกลุ่มบุคคล ดังมีสาระ
สำาคัญโดยสรุป ดังนี้
(1) การประเมินสถานการณ์สิทธิมนุษยชน
ในสถานการณ์เฉพาะ
ในปี 2563 มีสถานการณ์เฉพาะที่ส่งผลกระทบต่อสิทธิมนุษยชนที่สำาคัญ 2 สถานการณ์ ได้แก่ สถานการณ์
การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 และสถานการณ์การชุมนุมเรียกร้องทางการเมืองของนักเรียน นิสิต นักศึกษา
และประชาชน
การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 ในวงกว้างทำาให้รัฐบาลต้องประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินเพื่อกำาหนดมาตรการ
ในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรค โดยบางมาตรการมีลักษณะเป็นการจำากัดสิทธิและเสรีภาพบางประการ อาทิ
การห้ามเดินทางข้ามเขตจังหวัด การกำาหนดเวลาออกนอกเคหสถานหรือเคอร์ฟิว การห้ามจัดกิจกรรมรวมกลุ่มหรือ
การชุมนุม แต่มาตรการดังกล่าวมีความจำาเป็นและได้สัดส่วนกับความรุนแรงของสถานการณ์โดยมีข้อมูลเชิงประจักษ์
ที่แสดงให้เห็นว่า เป็นมาตรการที่มีประสิทธิผลและรัฐได้ผ่อนผันหรือยกเว้นการบังคับใช้มาตรการเหล่านั้นเมื่อสถานการณ์
แพร่ระบาดเริ่มคลี่คลายลง ในขณะเดียวกัน รัฐบาลได้มีมาตรการช่วยเหลือประชาชนกลุ่มต่าง ๆ ทั้งกลุ่มแรงงาน
ผู้สูงอายุ และคนพิการที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจด้านเศรษฐกิจและการครองชีพ เพื่อคุ้มครองสิทธิที่จะมีมาตรฐาน
การดำารงชีวิตที่เหมาะสม ผ่านมาตรการเยียวยาและมาตรการทางการเงินเพื่อลดภาระค่าใช้จ่าย อย่างไรก็ตาม การให้
ความช่วยเหลือผ่านระบบออนไลน์ทำาให้ผู้ได้รับผลกระทบบางกลุ่มเข้าไม่ถึงสิทธิ เช่น กลุ่มชาติพันธุ์ เนื่องจากมีอุปสรรค
ทางภาษาหรืออยู่ในพื้นที่ห่างไกลที่ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต และยังพบปัญหาความรุนแรงในครอบครัวที่เพิ่มขึ้น
ในกลุ่มผู้หญิง และปัญหาการไม่สามารถเข้าถึงบริการสาธารณสุขโดยเฉพาะเรื่องการยุติการตั้งครรภ์ได้ ในการแพร่ระบาด
ระลอกใหม่ที่พบในกลุ่มแรงงานต่างด้าวจำานวนมากและการติดเชื้อในหลายจังหวัดที่มีความเชื่อมโยงจากบ่อนการพนัน
สะท้อนถึงการทำางานของหน่วยงานของรัฐในการบังคับใช้กฎหมายที่ไม่สามารถดำาเนินการในเรื่องดังกล่าวได้อย่างจริงจัง
จึงทำาให้เกิดการแพร่ระบาดระลอกใหม่ขึ้น กสม. จึงมีข้อเสนอแนะต่อรัฐบาลให้คำานึงถึงข้อจำากัดในการเข้าถึงความช่วยเหลือ
ของประชากรบางกลุ่มและกำาหนดช่องทางที่เหมาะสมเพื่อให้ประชากรกลุ่มดังกล่าวได้เข้าถึงและใช้สิทธิในทางปฏิบัติ
ได้จริง ในส่วนของการจัดหาวัคซีนป้องกันโรคโควิด 19 นั้น ควรจัดหาให้บุคคลที่มีความเสี่ยงจากการปฏิบัติงานที่อาจสัมผัส บทสรุปผู้บริหาร
รายงานผลการประเมินสถานการณ์
ด้านสิทธิมนุษยชนของประเทศไทย ปี 2563 13