Page 5 - เสรีภาพในการถือศาสนา เสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ และการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม กรณีการห้ามสตรีที่นับถือศาสนาอิสลามสวมฮิญาบ
P. 5
พระราชบัญญัติคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
พ.ศ. ๒๕๔๒ มาตรา ๑๕ (๓) บัญญัติให้คณะกรรมการ
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติมีอำานาจหน้าที่เสนอแนะนโยบายและ
ข้อเสนอในการปรับปรุงกฎหมาย และกฎ หรือข้อบังคับต่อ
รัฐสภา คณะรัฐมนตรี เพื่อส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
โดยที่เสรีภาพในการถือศาสนาและเสรีภาพใน
การแสดงออกทางศาสนาเป็นสิทธิมนุษยชนที่ได้รับ
การรับรองและคุ้มครองจากรัฐธรรมนูญและพันธกรณี
ที่ประเทศไทยเป็นภาคี โดยปฏิญญาสากลว่าด้วย
สิทธิมนุษยชน ข้อ ๑๘ กติการะหว่างประเทศว่าด้วย
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ข้อ ๑๘ และรัฐธรรมนูญ
แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ มาตรา ๓๗
ได้บัญญัติรับรองเสรีภาพในทางศาสนาไว้ สามารถจำาแนก
ออกเป็น ๒ ประการ คือ เสรีภาพในการถือศาสนาเป็น
เสรีภาพบริบูรณ์ ไม่อาจจำากัดได้ และเสรีภาพในการ
แสดงออกทางศาสนา เป็นเสรีภาพที่ไม่บริบูรณ์สามารถ
จำากัดได้เท่าที่จำาเป็น ซึ่งกติการะหว่างประเทศว่าด้วย
สิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง ให้แนวทางว่า
จำากัดได้โดยบทบัญญัติของกฎหมายตามความจำาเป็น
เพื่อรักษาความปลอดภัย ความสงบเรียบร้อย สุขอนามัย
ศีลธรรมของประชาชน หรือเพื่อคุ้มครองสิทธิและ
เสรีภาพของบุคคลอื่น และหลักการในรัฐธรรมนูญแห่ง
ราชอาณาจักรไทย กำาหนดว่า บุคคลย่อมมีเสรีภาพใน
เสรีภาพในการถือศาสนา เสรีภาพในการปฏิบัติตามศาสนธรรม ศาสนบัญญัติ 3
และการเลือกปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม กรณีการห้ามสตรีที่นับถือศาสนาอิสลามสวมฮิญาบ