Page 4 - รายงานการศึกษาวิจัย เรื่อง ปัญหาเยาวชนหญิงที่ตั้งครรภ์ก่อนวัยอันควรกับมิติสิทธิมนุษยชน ฉบับสมบูรณ์
P. 4
พ.ศ. ๒๕๔๕, พ.ร.บ. คุ้มครองเด็ก (๒๕๔๖), พ.ร.บ. คุ้มครองผู้ถูกกระท ำด้วยควำมรุนแรงในครอบครัว
(๒๕๕๐), พ.ร.บ. ส่งเสริมกำรพัฒนำเด็กและเยำวชนแห่งชำติ (๒๕๕๐) และประมวลกฎหมำยอำญำ
มำตรำ ๓๐๑-๓๐๕ บทกฎหมำยต่ำงๆ ของรัฐไทย มีควำมพยำยำมอย่ำงยิ่งต่อกำรคุ้มครองสิทธิเด็กและ
เยำวชน ในฐำนะประชำชนพลเมืองของรัฐ ซึ่งเป็นกำรมุ่งเน้นในประเด็นควำมรุนแรง ทำรุณกรรม
กำรบังคับ และกำรเลือกปฏิบัติ รวมไปถึงสิทธิในกำรพัฒนำยกระดับคุณภำพชีวิต ควำมเป็นอยู่ผ่ำน
กำรศึกษำ แต่ไม่ได้มุ่งให้ควำมส ำคัญถึงกำรอยู่ในวัยเจริญพันธุ์ อนำมัยเจริญพันธุ์ และสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์
ของเด็กและเยำวชน น ำไปสู่กำรไม่มีกฎหมำย บทบัญญัติในกำรคุ้มครองสิทธิของเยำวชนหญิงตั้งครรภ์ ใน
กำรดูแลและป้ องกันสุขภำพ ในกำรตัดสินใจว่ำจะมีบุตรหรือไม่และจะมีเมื่อใด กำรเข้ำถึงบริกำร ควำมรู้
ส ำหรับยุติกำรตั้งครรภ์ ร้ำยไปกว่ำนั้น กำรท ำแท้งหรือยุติกำรตั้งครรภ์ยังถูกบัญญัติในฐำนะอำชญำกรรม
อย่ำงหนึ่งที่มีบทลงโทษชัดเจน และอยู่บนกำรตีควำมของแพทย์และเจ้ำหน้ำที่จำกภำครัฐเท่ำนั้น ไม่ใช่กำร
ตัดสินใจของเยำวชนหญิงผู้ตั้งครรภ์ ทั้งๆ ที่เป็นส่วนหนึ่งของสิทธิมนุษยชน
และเพื่อให้งำนวิจัยชิ้นนี้รอบด้ำน และสอดคล้องกับกำรก้ำวไปสู่ประชำคมอำเซียนของประเทศ จึง
ได้ศึกษำถึงหลักกฎหมำยบำงประเทศในภูมิภำคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเลือกจำกพื้นฐำนทำงสังคมที่
แตกต่ำงกัน ได้แก่ เวียดนำมที่อิทธิพลของลัทธิขงจื้อมีบทบำทอย่ำงมำกต่อกระบวนทัศน์ของสมำชิกใน
สังคม รวมไปถึงบทกฎหมำย, กฎหมำยฟิลิปปินส์ที่ตั้งอยู่บนจุดยืนของศำสนจักรโรมันคำทอลิก ซึ่งมี
อิทธิพลอย่ำงมำกต่อกำรวำงแผนครอบครัว และอินโดนีเซียกฎหมำยคุ้มครองสิทธิมนุษยชนแต่ต้องอยู่
ภำยใต้ควำมเชื่อทำงศำสนำอิสลำม ทั้งนี้เพื่อเป็นแนวทำงในกำรแก้ไขปัญหำกำรละเมิดสิทธิมนุษยชน สิทธิ
อนำมัยเจริญพันธุ์ของเยำวชนหญิง ผ่ำนกำรแก้กฎหมำยและเพื่อเป็นประโยชน์ในกำรใช้ประกอบร่ำง
พ.ร.บ. อนำมัยเจริญพันธุ์ ซึ่งกฎหมำยของทั้ง ๓ ประเทศ มีข้อเหมือนและแตกต่ำงไปตำมบริบททำงสังคม
และวัฒนธรรม ฐำนคิดของสังคมที่เป็นตัวก ำกับและสะท้อนออกมำในตัวบทกฎหมำย นโยบำยและ
มำตรกำร แม้ว่ำทั้ง ๓ ประเทศจะรับเอำมุมมองเรื่องสิทธิมนุษยชน แต่กำรน ำแนวคิดนี้มำใช้มีควำม
แตกต่ำงกันไปตำมบริบทศำสนำสังคมและวัฒนธรรมซึ่งถูกยกให้มีควำมส ำคัญเหนือกว่ำสิทธิมนุษยชน
ฐำนคิดของคนในสังคมของแต่ละประเทศที่ถูกกรอบไว้ด้วยควำมคิดควำมเชื่อทำงศำสนำ บรรทัดฐำนทำง
สังคมและวัฒนธรรม และมีอิทธิพลเหนืออนุสัญญำต่ำงๆ ท ำให้ท้ำยที่สุด สิทธิของผู้หญิง โดยเฉพำะอย่ำงยิ่ง
เยำวชนหญิงถูกจ ำกัดและลิดรอน สิ่งที่เหมือนกันของทั้ง ๓ ประเทศอีกประกำรหนึ่งคือ ยังไม่มีควำมชัดเจน
เรื่องสิทธิอนำมัยเจริญพันธุ์ว่ำคือ สิทธิมนุษยชน และไม่มีกฎหมำยอนำมัยเจริญพันธุ์ ซึ่งจะช่วยเติมเต็มกำร
เข้ำถึงสิทธิด้ำนต่ำงๆ ของเยำวชนหญิงที่ตั้งครรภ์โดยไม่พร้อม เพรำะอคติของคนในสังคมที่ไม่ยอมรับกำร
ตั้งครรภ์ของเยำวชนหญิง ท ำให้ไม่ได้รับกำรคุ้มครองทำงกฎหมำย และกำรสนับสนุนทำงสังคม ส่งผลให้
เยำวชนหญิงเหล่ำนี้ไม่สำมำรถเข้ำถึงสิทธิในด้ำนต่ำงๆ ของตนได้อย่ำงเต็มที่
สรุปได้ว่ำกฎหมำยของ ๓ ประเทศครอบคลุมถึงสิทธิ ได้แก่ สิทธิในกำรมีชีวิตอยู่อย่ำงมีศักดิ์ศรี
ควำมเป็นมนุษย์ สิทธิในกำรได้รับข้อมูลข่ำวสำรและกำรศึกษำ สิทธิในกำรตัดสินใจว่ำจะมีบุตรหรือไม่และ
๔