Page 10 - การติดตามการปฏิบัติตามกติกาอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน
P. 10
คำานำา
นอกเหนือจากปฎิญญาสากลว่าด้วยสิทธิมนุษยชนแล้วประเทศไทยเข้าเป็น
ภาคีกติกาและอนุสัญญาระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชนอีกหลายฉบับ การเข้าเป็น
ภาคีตราสารระหว่างประเทศดังกล่าวก่อให้เกิดพันธกรณีต่อประเทศไทยโดยไม่เพียง
แต่เป็นการแสดงความพร้อมที่จะยอมรับที่จะปฎิบัติตามข้อกำาหนดต่าง ๆ ที่ระบุไว้
ในกติกา อนุสัญญา เท่านั้น แต่ยังรวมถึงการที่ประเทศไทยได้ยอมรับระบบติดตาม
และตรวจสอบผลการปฎิบัติตามกติกาและอนุสัญญาด้วย สหประชาชาติมีกลไก
ระหว่างประเทศเพื่อตรวจสอบการปฎิบัติตามกติกาและอนุสัญญาหลายรูปแบบ
เพื่อให้แน่ใจว่ารัฐภาคีได้ปฎิบัติตามบทบัญญัติของกติกาและอนุสัญญาอย่างจริงจัง
ซึ่งจะทำาให้ประชาชนในประเทศที่เป็นภาคีได้รับการเคารพและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน
อย่างแท้จริงตามเจตนารมณ์ของกติกาและอนุสัญญา
ระบบการติดตามตรวจสอบการปฏิบัติตามบทบัญญัติของกติกา อนุสัญญา
ที่ได้รับการจัดตั้งขึ้นยังมีข้อจำากัดบางประการ สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ของรัฐภาคีหนึ่งจึงอยู่ในสถานะที่จะช่วยเสริมการดำาเนินงานของระบบการติดตาม
ตรวจสอบในระดับประเทศและระหว่างประเทศได้เป็นอย่างดี เนื่องจากสถาบัน
สิทธิมนุษยชนแห่งชาติเป็นองค์กรที่อยู่ในพื้นที่และใกล้ชิดกับปัญหา มีความรู้ความเข้าใจ
เกี่ยวกับประเทศของตน ตลอดจนมีโอกาสที่จะสื่อสารและประสานงานกับผู้เกี่ยวข้อง
ทั้งหน่วยงานภาครัฐ องค์การเอกชนและผู้มีส่วนได้เสียอื่น ๆ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเอื้อ
ให้สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติสามารถติดตามตรวจสอบในระดับประเทศได้
อย่างมีประสิทธิภาพ สหประชาชาติจึงกำาหนดให้สถาบันสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ
ทำาหน้าที่เป็นกลไกติดตามตรวจสอบการปฏิบัติตามพันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชน
ระหว่างประเทศและถือเป็นบทบาทหน้าที่ที่สำาคัญเพื่อให้เกิดการยอมรับจากประชาคม
ระหว่างประเทศ โดยได้รับการยืนยันอย่างชัดเจนใน “หลักการปารีส” หรือ “หลักการ
ว่าด้วยสถานะของสถาบันแห่งชาติเพื่อการส่งเสริมและคุ้มครองสิทธิมนุษยชน”